วันพุธที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ประวัติความเป็นมาของประเพณีชักพระ

       ประเพณีชักพระเชื่อกันว่าเริ่มเข้ามาจากทางภาคใต้ของเราโดยได้รับอิทธิพลความเชื่อมาจากพราหมณ์ในอินเดีย ที่นิยมแต่งขบวนแห่รูปเคารพเทพเจ้าต่างในโอกาสต่างๆ โดยปรับเปลี่ยนเป็นการแห่แหนพระพุทธรูปโดยอิงจากเรื่องราวในพุทธประวัติตอนหนึ่งที่ว่าหลังจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกระทำยมกปากิหาริย์ปราบเดียรถีย์ ที่ป่ามะม่วง กรุงสาวัตถี
แล้วเสด็จขึ้นไปจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อเทศนาโปรดพุทธมารดา จนกระทั่ง วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของพรรษา องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จกลับยังโลกมนุษย์ ในวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ซึ่งเป็นวันออกพรรษาพุทธศาสนิกชนที่ทราบข่าวการเสด็จกลับลงมายังโลกขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต่างก็มารอรับเสด็จพร้อมเตรียมภัตตาหารมาถวายแต่เนื่องจากมีประชาชนไปรอรับเสด็จเป็นจำนวนมาก ทำให้เข้าถวายอาหารไม่ถึงพระองค์ จึงห่ออาหารที่จะถวายด้วยใบไม้แล้วโยนเข้าไปถวาย จึงเป็นที่มาของประเพณี “ห่อต้ม”และอาราธนาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับบนบุษบกแล้วแห่แหนไปยังที่ประทับของพระองค์  เมื่อทรงดับขันธ์ปรินิพานแล้ว ชาวพุทธจึงนำเอาพระพุทธรูปตัวแทนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าขึ้นบนบุษบก แล้วร่วมแรงร่วมใจกันชักลากเกิดเป็นประเพณีชักพระโดยถือเอาวันแรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ของทุกปีเป็นวันประเพณีชักพระ






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เครื่องดนตรีในประเพณีชักพระ

เครื่องดนตรีที่สำคัญในประเพณีชีกพระที่หน้าสนใจก็มีมากมายและที่ขาดไม่ได้คือเครื่องประโคม